มาชูปิกชู ก็คือโบราณสถานแห่งมาชูปิกชู อารยธรรม แดนอินคา ซึ่งอยู่ในประเทศเปรู ที่นี่นอกจากจะเป็นเมืองที่เป็นมรดกโลก มา ชู ปิ ก ชู 7 สิ่งมหัศจรรย์ ที่มีความสวยงามและแปลกตากว่าที่อื่น แล้วยังเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนปีละมากกว่า 1.5 ล้านคนเลยทีเดียว และที่นี่ก็มีเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหลไม่ได้ด้อยกว่า เที่ยวทัชมาฮาล และ เที่ยวอิตาลี แต่อย่างใด
มีหลายคนยังคงสงสัยว่ามาชูปิกชู อยู่ที่ไหน เพราะยังเป็นที่ ที่เก็บเอาเรื่องราวปริศนาที่ลึกลับซับซ้อน แต่ไม่น่าเชื่อก็ตรงที่ ชื่อของที่นี่อย่าง มาซู ปิกซู ที่เราเคยรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้น อาจจะไม่ใช่ชื่อที่ได้เรียกขาน ในแบบชาวอินคาในยุคก่อนหน้า
มาชูปิกชู กับอารยธรรมที่ล่มสลายจากโรคระบาด มาชูปิกชู สร้างขึ้นเพื่อ
จะว่าไปแล้วที่นี่ถือว่าเป็นเมืองที่สาบสูญแห่งอินคามาชูปิกชู สร้างขึ้นเพื่อ อะไรยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่ที่นี่เคยเป็นเมืองเคยเจริญรุ่งเรืองในขั้นสุด แต่ในที่สุดก็ต้องล่มสลายจากภัยร้ายอย่างโรคระบาด และจากการล่าอาณานิคมของสเปน จนที่สุดเมืองแห่งนี้ก็เกิดหายสาบสูญไปกว่า 3 ศตวรรษ จากพิกัดที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,350 เมตร
ทำให้ที่นี่มันยากที่จะเข้าถึงได้ เพราะว่าเมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงแอนดิส ที่ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน และยังอยู่เหนือแม่น้ำอุรุบัมบา เมืองนี้ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างสมัยชาวอินคา และมาชูปิกชู อารยธรรม ที่ใหญ่ที่สุดมาชูปิกชู อยู่ทวีป อเมริกาใต้ซึ่งอยู่ในช่วงของต้นคริสต์ศตวรรษที่ 13
ถ้าจะถามว่ามาชูปิกชู อยู่ประเทศอะไร ถ้าหากแจงรายละเอียดกันอย่างชัดเจนจะทราบว่าสถานที่แห่งนี้ได้แผ่ขยายอาณาเขตครอบคลุมในประเทศเปรู เอกวาดอร์ และตอนใต้ของประเทศโคลอมเบีย และภาคตะวันตกและใต้ของประเทศโบลิเวีย และยังกินส่วนหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศชิลี รวมถึงบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอาร์เจนตินาอีกด้วยค่ะ
เมื่อกษัตริย์ของชาวอินคาเปรียบเสมือน บุตรของพระอาทิตย์
แน่นอนว่ากษัตริย์ของชาวอินคา ได้รับการยกย่องให้เป็น บุตรของพระอาทิตย์ เนื่องจากชาวอินคา มีความเชื่อในเรื่องของ ดวงอาทิตย์ ว่าเป็นพระองค์ที่เป็นผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ และยังคงนับถือ ดวงจันทร์ ดวงดาวและโลก และหลังจากที่กลายเป็นดินแดนที่สาบสูญไปนานถึง 3 ศตวรรษ ก็ได้ถูกค้นพบอีกครั้งโดยนักโบราณคดีของชาวอเมริกันอย่างนาย ไฮแรม บิงแฮม ตอนปี 1911 และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวโลกได้รู้จักเมืองนี้กันค่ะ
ความแปลกของมาชูปิกชู อารยธรรม แห่งนี้ เขาได้สร้างให้มีลักษณะแบบขั้นบันได ที่ไล่กันตามความชันของหุบเขา และแต่ละชั้นก็จะมีความสูงถึง 3 เมตร มีจำนวนทั้งหมด 40 ชั้นและแต่ละชั้นก็ได้ถูกเชื่อมกันกับขั้นบันไดกว่า 3,000 ขั้นซึ่งจะมีสิ่งก่อสร้างที่ทำมาจากหินกว่า 200 หลัง ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างมาจากหินกว่า 200 หลังที่ถือว่าอัศจรรย์มากของเทือกเขาสูงแห่งนี้
มาซูปิกซูถูกสร้างขึ้นเมื่อเพื่ออะไร?และมาชูปิกชู มีความสําคัญอย่างไร
ถ้าหากว่าจะพูดตามสมมติฐานว่ามาชูปิกชู มีความสําคัญอย่างไร เคยถูกปกครองโดยนักบวชของลัทธิเพื่อใช้บูชาสุริยเทพ ซึ่งมีไว้เพื่อทำพิธีถวายหญิงสาวเป็นเครื่องสังเวยสำหรับพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา นอกจากนี้ก็ยังเป็นป้อมปราการสุดท้าย ที่ชาวอินคาเคยใช้ต่อสู้กับพวกสเปน
ซึ่งยังมีอีกหลายข้อสันนิษฐานของมาชูปิกชู สร้างขึ้นเพื่อ เป็นที่อาศัยของนักบวช มีไว้เพื่อใช้ในการสังเกตการณ์การโคจรจากดวงอาทิตย์ ถือว่าเป็นสถานที่จำลองการเกิดของโลก และจักรวาลตามความเชื่อของชาวเมืองอินคา สาเหตุน่าจะมาจากที่ ที่นี่มีหน้าต่างที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ตรงกลางพอดีในวันสิ้นสุดฤดูร้อน และวันสิ้นสุดฤดูหนาว ในส่วนของแท่นบูชายัน ก็มีไว้เพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ สำหรับการดูวงโคจรของดวงอาทิตย์นั่นเองค่ะ
แต่ก็ยังมีอีกสมมติฐานหนึ่งก็คือ อาจจะไม่ได้เป็นเมืองเลยก็ได้ แต่น่าจะเป็นที่พักผ่อนตากอากาศของบรรดาเชื้อพระวงศ์ระดับสูงสำหรับช่วงฤดูแล้ง นั่นก็เพราะว่าที่นี่เขาประกอบไปด้วยพระราชวัง แถมยังมีวิหารและคฤหาสน์ล้อมอยู่ด้วยอีกรอบหนึ่ง ซึ่งรวมไปถึงที่พักของผู้ทำงานในสถานที่นั้นๆ ค่ะ
จากตามการคาดคะเนว่ามาชูปิกชู มีความสําคัญอย่างไร สำหรับหน้าฝนหรือช่วงที่บรรดาเชื้อพระวงศ์ได้ไปเดินทางมาประทับ ที่นี่ก็จะมีคนที่ดูแลน่าจะไม่เกิน 750 คน และเมืองแห่งนี้ก็ถูกสร้างในสมัยของ ปาชากูดี กษัตริย์แห่งอาณาจักรอินคาในช่วง 1440 และก็คงจะมีคนอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดเวลา จนกระทั่งถูกชาวสเปนมายึดไป หลังจากนั้นประมาณ 80 ปี
สรุป มาชูปิกชู เป็นหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งตรงรอยเลื่อนของโลก
ความจริงมาชูปิกชู สรุป คือยังมีนักโบราณคดีหลายๆ คนที่เกิดตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความลับของมาซูปิกชู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่ตั้ง รวมไปถึงการก่อสร้างจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่ามาซูปิกชู สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร และสาเหตุใดที่ต้องสร้างให้อยู่บนเทือกเขาสูงซะขนาดนั้น
แต่ล่าสุดก็มีผู้เสนอผลการศึกษาทางธรณีวิทยา และเป็นไปได้ว่า ชาวอินคาก็เลือกในเขตแอนดิส หรือว่า หุบเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก็เพราะว่ามีรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก และรอยแยกของพื้นหินที่ตัดกัน แถมยังมีเครื่องหมายที่เป็นรูปกากบาท เช่นเดียวกับเมืองโบราณที่สำคัญแห่งอาณาจักรอินคา
และสาเหตุหลักของการล่มสลายก็คือในปี 1532 น่าจะมาจากเพราะว่าเป็นความอ่อนแอ และเกิดความวุ่นวายของเมืองหลวงที่ดันเกิดสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์กันเอง รวมไปถึงอยู่ในช่วงของโรคระบาด ทำให้เกิดเป็นภัยร้ายและคุกคามไปทั่วอย่างรวดเร็ว อย่างโรคฝีดาษและไข้ทรพิษ ที่ถือว่าเป็นโรคติดต่อร้ายแรงของเมือง มาชูปิกชู จนทำให้อาณาจักรต้องล่มสลายในที่สุด