มรดกโลกในญี่ปุ่น แหล่งมรดกโลกขององค์กร UNESCO สถานที่น่าไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต เที่ยวฤดูไหนก็ฟิน
มรดกโลกในญี่ปุ่น สถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้ สักครั้งหนึ่งในชีวิต เที่ยวมรดกโลก จะเที่ยวฤดูไหนก็ฟิน จะมีความแตกต่างจาก มรดกโลกของไทย มรดกโลกของจีน หรือ มรดกโลกในเกาหลีใต้ อย่างไร เมืองมรดกโลก ญี่ปุ่น ที่น่าเที่ยวจะมีที่ไหนบ้างมาดูกัน
ปราสาทฮิเมจิ
ชมผลงานชิ้นเอกของปราสาทไม้ในญี่ปุ่น “นกกระยางขาว” ปราสาทฮิเมจิ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เป็น มรดกโลกในญี่ปุ่น แห่งหนึ่ง
ปราสาทฮิเมจิ ตั้งอยู่บนยอดเขาในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ของสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่น ต้นแบบที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งประกอบด้วยอาคาร 83 หลัง พร้อมระบบป้องกันขั้นสูง จากยุคศักดินา
มรดกโลกในญี่ปุ่น ปราสาทฮิเมจิแห่งนี้ เรียกอีกอย่างว่า ปราสาทนกกระสาขาว หรือ ปราสาทนกกระยางขาว เพราะภายนอกของปราสาทมีสีขาวและคล้ายกับนกที่กำลังบินอยู่ ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี พ.ศ.2536
เช่นเดียวกับ ปราสาทมัตสึโมโตะ (ในนากาโนะ) และ ปราสาทคุมาโมโตะ (ในคุมาโมโตะ) ปราสาทฮิเมจิ ถือเป็นหนึ่งใน 3 ปราสาท ชั้นนำของญี่ปุ่น
ด้านนอกของปราสาท เพิ่งได้รับการตกแต่งใหม่ และเปิดให้บุคคลทั่วไป เข้าชมได้ในปี 2015 เป็นเวลาที่เหมาะที่สุด ที่จะเพลิดเพลินไปกับ รูปลักษณ์ใหม่ของปราสาทสีขาว ที่สวยงาม
ที่อยู่ : 68 Honmachi, Himeji-shi, Hyogo
สถานีที่ใกล้ที่สุด : เดิน 20 นาที จากสถานีฮิเมจิ
ค้นหาคำนี้ “ปราสาทฮิเมจิ” บน Google Map
เวลาทำการ : 09:00 ถึง 16:00 น.
ค่าธรรมเนียม : 1,000 เยน
วัดเทนริวจิ
มรดกโลกในญี่ปุ่น อีกแห่งของเกียวโต Tenryuji ใน Arashiyama วัดที่มีสวน Sogenchi ที่งดงาม
วัดเทนริวจิ (天龍寺) เป็นวัดหลักของสาขาเทนริว ของพุทธศาสนานิกาย ริ้นไซ เซน และตั้งอยู่ในเขตอาราชิยามะในเมืองเกียวโต วัดนี้ก่อตั้งโดย Ashikaga Takauji ในปี 1339 ระหว่างสมัย Muromachi และการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1345
วัดเทนริวจิ มรดกโลกในญี่ปุ่น แห่งนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 วัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกียวโต และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเกียวโตโบราณ” ในปี 1994
ไฮไลท์ของวัด ได้แก่ สวนภูมิทัศน์อันงดงาม “ สวนบ่อโซเก็นจิ (Sogenchi Teien)” ซึ่งออกแบบโดย นักออกแบบสวนชื่อดัง มุโซ โซเซกิ นำเสนอภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยสระน้ำตรงกลาง ต้นสน และป่าไม้ ของ ภูเขาอาราชิยามะ
วัดยังมีภาพวาด ที่มีชื่อเสียงมาก ที่เรียกว่า ” มังกรเมฆ ” บนเพดานของห้องโถงฮัตโต มังกรเมฆถูกวาดขึ้นในปี 1997 โดยศิลปินนิฮงกะชื่อดัง Kayama Matazo (1927–2004) และนิทรรศการ เปิดให้บุคคลทั่วไป เข้าชมได้เฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 500 เยน
การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานี Arashiyama
เวลาทำการ : 8:30–17:30 น. (-17:00 น. ในฤดูหนาว)
ค่าธรรมเนียม : สวน 500 เยน สวนและอาคาร 800 เยน
พื้นที่อาราชิยามะ เป็นส่วนที่น่าสนใจที่สุด แห่งหนึ่งของเกียวโต และเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถาน ทางประวัติศาสตร์อันงดงามจำนวนมาก ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม
หากคุณต้องการสำรวจพื้นที่อาราชิยามะ รวมถึงวัดเท็นริวจิ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ให้ไปทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับ พร้อมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
ทัวร์ชิมอาหารและเครื่องดื่ม ในเกียวโต อาราชิยามะ เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นำเสนอไฮไลท์ที่ดีที่สุด ของย่านอาราชิยามะ ภายใน 3 ชั่วโมงเท่านั้น ทัวร์เดินชมนี้ ยังรวมการชิมอาหารพื้นเมือง จานพิเศษมากมาย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ
พิพิธภัณฑ์มรดกโลกในโตเกียว พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ตะวันตกแห่งชาติ ตั้งอยู่ในสวนอุเอโนะ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีชื่อเสียงด้านศิลปะประเพณีตะวันตก เป็นหอศิลป์ที่โด่งดังมากๆ ในญี่ปุ่น มีผลงานมากถึง 4500 ชิ้น ตั้งอยู่ในสวนอุเอโนะ เขตไทโตะ ในโตเกียว
ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ตลอดจนนิทรรศการชั่วคราว ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 ยูเนสโกได้ระบุผลงาน 17 ชิ้นของ เลอกอร์บูซีเยร์ ให้เป็นมรดกโลก รวมถึง อาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ
การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากสถานี JR Ueno ทางออกสวนสาธารณะ
เวลาทำการ : 9:00 – 17:30 น. (ปิดวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : 430 JPY (เข้าชมฟรีทุกวันเสาร์ที่ 2 และ 4)
* มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับนิทรรศการพิเศษ*.
สุสาน Mozu
มรดกโลกขององค์การยูเนสโกในโอซาก้า เยี่ยมชมสุสานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สุสาน Mozu (百舌鳥古墳群) เป็นกลุ่มของสุสานหิน 44 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในเมืองซาไก ทางใต้ของใจกลาง โอซาก้า
สุสานเหล่านี้ เรียกว่า ” โคฟุน ” และพบได้ในหลายรูปทรง สุสานที่ใหญ่ที่สุด เชื่อกันว่า เป็นสุสานของจักรพรรดินินโทคุ ซึ่งยาว 800 เมตร และกว้าง 600 เมตร เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
สุสานMozu ข้างกลุ่มสุสานอื่น ที่เรียกว่า ” สุสาน Furuich ” ประกอบด้วยสิ่งที่เรียกว่า ” กลุ่ม Mozu-Furuichi Kofun ” และได้รับการเสนอชื่อโดย UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 2019
สุสาน Mozu คืออะไร
เชื่อกันว่าสุสานMozu ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 4 และ 6 สำหรับสมาชิกของชนชั้นปกครอง
มรดกโลกในญี่ปุ่น สุสานโคฟุนเหล่านี้ มีรูปร่างและขนาดต่างกัน เป็นที่เชื่อกันว่า ยิ่งหลุมฝังศพมีขนาดใหญ่ และซับซ้อนมากขึ้นเท่าใด สถานะของผู้ฝังก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
สุสานที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่ง เชื่อกันว่าเป็นของจักรพรรดินินโทคุ และจักรพรรดิริชู สุสานทั้งสองนี้ มีรูปร่างเหมือนรูกุญแจ ว่ากันว่าใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 20 ปี
สุสานที่มีขนาดเล็กกว่า จะมีรูปร่างที่เรียบง่ายกว่า เช่น วงกลมหรือสี่เหลี่ยม คุณสามารถพบสิ่งเหล่านี้ได้บางส่วนภายใน Daisen Park ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง 2 สุสานขนาดใหญ่
ที่นี่เคยมีสุสานมากกว่า 100 สุสาน แต่เนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่ญี่ปุ่น สงครามโลกครั้งที่สอง สุสานเหล่านี้มากกว่าครึ่งจึงถูกทำลาย
สิ่งที่ต้องทำและดูที่สุสาน Mozu
มรดกโลกในญี่ปุ่น แห่งนี้เมื่อคุณมาถึงสถานีMozu ที่แรกคุณจะพบคือ Daisen park สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างจักรพรรดิ Nintoku Kofun และจักรพรรดิ Richu Kofun
ภายในสวนสาธารณะ คุณสามารถใช้เวลาที่สวนสไตล์ญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์เมืองซาไก และพิพิธภัณฑ์จักรยาน
พิพิธภัณฑ์เมืองซะไก : เปิดตั้งแต่ 09:30-17:15 น. คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองซาไก และดูสิ่งประดิษฐ์ที่พบในสุสานเหล่านี้
สวนญี่ปุ่น : เปิดตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 17.00 น. (พ.ย. – มี.ค. : 9:30 น. ถึง 16:30 น.) เพลิดเพลินกับสวนสไตล์ญี่ปุ่น และพักสมองจากบรรยากาศเมืองที่คึกคัก
พิพิธภัณฑ์จักรยาน : เปิดตั้งแต่ 10.00 – 16.30 น. เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของจักรยานและดูว่ารุ่นต่างๆ ได้ปฏิวัติวงการไปอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อพูดถึง มรดกโลกในญี่ปุ่น สุสานของจักรพรรดินินโทคุและจักรพรรดิริชู คุณสามารถเดินไปรอบๆ และมองเห็นทางเข้าของสุสานได้
ปัญหาหนึ่งที่คุณจะพบที่นี่คือ การได้เห็นหลุมฝังศพรูปรูกุญแจที่น่าประทับใจ จากด้านบน คุณจะต้องไปที่หอดูดาว ที่ตั้งอยู่บนชั้น 21 ของศาลากลางซาไก ศาลากลางซาไกอยู่ห่างจากสวนสาธารณะไดเซ็นประมาณ 1 กม.
การเดินทางไปยัง สุสาน Mozu มรดกโลกในญี่ปุ่น
วิธีเดินทางไปสุสานโมซูที่ง่ายที่สุด คือโดยรถไฟ สุสานหลักและสวน Daisen ทั้งหมดอยู่ในระยะที่สามารถเดินได้จากสถานี Mozu ของสาย JR Hanwa
มีรถรับส่งจากสถานี Sakai รถรับส่งนี้จะพาคุณไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองซาไก ซึ่งอยู่ภายในสวนไดเซ็น ปัญหาเดียวของรถชัตเทิลบัสนี้ ให้บริการในวันอาทิตย์ วันเสาร์ และวันหยุดเท่านั้น
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ เที่ยวประวัติศาสตร์ ได้ที่ : @UFA-X10
เรียบเรียง BOMEBAMB