พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น หากไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่ควรพลาด ที่นี่

พิพิธภัณฑ์​ญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนั้น ไม่ควรพลาดกันเด็ดขาด

พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและน่าสนใจของ ประเทศญี่ปุ่นหากว่าไปเที่ยวแล้วไม่ควรพลาด ซึ่งแต่ละที่มีความน่าสนใจและ ได้ความรู้อย่างมากเกี่ยวกับ ความเป็นวัฒนธรรมและตัวตนของแดนอาทิตย์อุทัย เราจะพาคุณไปเที่ยวชมกันตามมาเลยจ้า

มีความน่าสนใจ หากว่าใครอยากศึกษา ว่าศิลปะวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างไร สถานที่ที่จะทำให้คุณนั้น ได้ข้อมูลเหล่านี้ พิพิธภัณฑ์ ญี่ปุ่นใน ไทย 

ก็คงหนีไม่พ้นการไป เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่จะมีทั้ง ประวัติศาสตร์ ,ภูมิศาสตร์ ,วิทยาศาสตร์ ,ศิลปะ ,วัฒนธรรม , สงคราม , งานหัตถกรรม

ถือได้ว่า มีการครอบคลุมความเป็นญี่ปุ่น จากในอดีตที่ผ่านมา ที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง และยังเป็นแหล่งข้อมูล ที่คนญี่ปุ่นนั้นมีความภูมิใจ ที่จะนำเสนอให้ กับคนรุ่นหลังของพวกเขา

จนไปถึงชาวต่างชาติ ที่ได้มาเที่ยวที่นี่ ซึ่งเริ่มแรกมีการพิพิธภัณฑ์ ในสไตล์ยุโรป และมีการถือกำเนิดขึ้นมายาวนานมาก ๆ ในยุคสมัย เอโดะ

และสำหรับพิพิธภัณฑ์ ที่แรกที่ถูกก่อตั้งขึ้นก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว ซึ่งก่อตั้งในปี 2415 ซึ่งมีความเก่าแก่อย่างมาก ๆ เลย

จนทำให้เกิด ทางด้านผลงานที่มี ความสำคัญจำนวนถึง 2,642 ชิ้น ที่ได้ถูกกำหนดและยืนยัน อย่างเป็นทางการ ให้เป็นสมบัติที่สำคัญของชาติ หรือเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญนั่นเอง

ที่มีการตั้ง อยู่ภายในอาคารต่างๆถึง 10,426 ชิ้นทั่วทั้งหมดของญี่ปุ่น แต่ในการก่อตั้งขึ้นครั้งแรกนั้น จะมีการรู้จักกันในนามของ พิพิธภัณฑ์กระทรวงมหาดไทยและก็ได้ มีการพัฒนาจนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้

และต่อมาในปี พ.ศ. 2420 ทางด้านของ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น ซึ่งแต่เริ่มเดิมทีจะไม่ได้ถูกเรียกชื่อนี้ แต่จะใช้ชื่อ พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาญี่ปุ่น แทนนั่นเอง

ซึ่งจุดประสงค์ที่มุ่งเน้น ในการก่อตั้งขึ้นก็คือ เพื่อให้ได้เข้ามาเรียนรู้ทางด้าน ฟิสิกส์ , เคมี , สัตววิทยา , พฤกษศาสตร์ , งานหัตถกรรมในระดับภูมิภาค เป็นต้น

และการพัฒนา ทางด้านการก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์ก็มีเกิดขึ้นมา หลายแห่งมากขึ้นเมื่อผ่านเวลา แค่ไม่กี่ทศวรรษจึงทำให้ได้ เห็นแหล่งความรู้ ก็คือพิพิธภัณฑ์ใหม่ ๆ จำนวนมากเช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา , พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกียวโต

และในช่วงคาบเกี่ยว กับการเปลี่ยนศตวรรษ เริ่มมีการขยายในส่วน ของทางด้านพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว ซึ่งที่แรกเลยก็คือที่ Okura Shukokan มันถูกสร้างขึ้น ในตอนประมาณปี 1917 ซึ่งที่นี่มีการเก็บ รวบรวมทางด้าน Okura kihachiro

ซึ่งเมื่อย้อนลง ไปในช่วงสมัยตอน สงครามโลกครั้งที่2จึงทำให้ การก่อสร้างในส่วนของพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด ต้องมีการยุติลง เพราะว่าทรัพยากร ส่วนใหญ่เน้นไปที่ การทำสงครามเป็นหลักในช่วงตอนนั้น

แต่เมื่อสงคราม ได้สิ้นสุดลงนั้นทางด้าน รัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น ก็มีความกระตือรือร้น และทำการเร่งสร้างในส่วนของ พิพิธภัณฑ์ศิลปะในญี่ปุ่น ขึ้นมาในการจัดตั้งนั่นเอง เราจะพาคุณไปรู้จักกับพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ ที่ดีที่สุดเลยในประเทศญี่ปุ่นกัน

พิพิธภัณฑ์ทางด้านประวัติศาสตร์ ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น

EDO Tokyo Museum ( พิพิธภัณฑ์เอโดะโตเกียว)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1993 ซึ่งได้รับการออกแบบจาก ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า คิโยโนริ คิคุทาเกะ และสาเหตุที่ต้องทำการออกแบบ

ให้มีการยกสูงของ ตัวอาคารนั้นก็มาจาก โกดังในรูปแบบ สไตล์คุระซุคุริแบบเก่า โดยสถานที่ตั้งน้้นอยู่ในเขตซูโม่ หรืออีกชื่อที่จะเรียกกันว่า เขตเรียวโกกุ

และยังได้ถอด แบบตามขนาดจริงของ โครงสร้างในสมัย ของเอโดะอีกด้วยนั่นเอง สำหรับการจัดแสดงวิถีชีวิต ให้มีขนาดที่เล็กแบบย่อส่วนลงมานั้น ก็ได้ถอดแบบมาจาก ในช่วงยุคสมัยนั้น

ให้มีความเข้าใจ ที่ง่ายและกระชับ นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดง สิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจในช่วงสมัยของ โชวะ แต่ยังมีการจัดแสดงในบางส่วน ซึ่งมีการจำลองสะพาน จากนิฮงบาชิ ให้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกด้วย

ซึ่งแท้จริงมัน ก็คือสิ่งที่ได้เห็น อย่างแรกเลยก็ว่าได้ก่อนจะ เดินทางเข้าสู่ เอโดะ ซึ่งในปัจจุบันมันก็คือเมืองโตเกียวนั่นเอง เราจะมาพูดถึงในส่วน สะพานนิฮงบาชิ ซึ่งมันจะมีการแบ่งแยกออกเป็น 2 โซน

ซึ่งในส่วนทางด้านโซนแรก จะมีการจัดแสดงทางด้านของ วิถีชีวิตผู้คนและประวัติศาสตร์ของเมืองโตเกียว ที่ถูกย้อนอดีตไปเมื่อสมัยของเอโดะ การนำเสนอของเขานั้นใช้โมเดล ที่มีหลากหลายรูปแบบ ในการโชว์ตัวอย่าง

และยังมีอีกส่วนที่น่าสนใจก็คือ ในส่วนการทำแผนที่และภาพของ อุกิโยะเอะ ซึ่งมันเป็นพิมพ์ภาพแบบบล๊อคไม้แกะ และยังมีการบรรยาย เพิ่มเติมในส่วนของ วัฒนธรรมความเป็นมาในช่วงนั้น

และสำหรับใน ส่วนของโซนที่ 2 ในส่วนของทางนี้จะ นำเสนอด้านของ วิวัฒนาการของโตเกียวในช่วงสมัย ประมาณปลายของยุคเอโดะ ลากถึงยุคโชวะ

ซึ่งถือว่าเป็นโซนที่มีความสำคัญมาก เที่ยวพิพิธภัณฑ์ เพราะจะทำให้เราเห็นรูปแบบการพัฒนา ของระบบศักดินาในยุคเอโดะ

นั้นมีการเปลี่ยนแปลงจนเข้าสู่โตเกียวในปัจจุบันได้อย่างไร ซึ่งด้วยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเน้นธีมหลักที่เมื่อ มีคนเข้ามาดูจะเห็นได้เลยว่าจัดธีม เป็นในรูปแบบศูนย์กลางของโตเกียวชัดเจน

พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น

– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว

สำหรับที่นี่ ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก แห่งนึงของประเทศญี่ปุ่น พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติโตเกียว ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1972 ซึ่งในตอนแรกเริ่มถูกตั้งที่ศาลเจ้า Yushima Seido

แต่ในเวลาต่อมา ได้ย้ายสถานที่ไปยัง สวนอุเอโนะ ในประเทศโตเกียว และก็ได้เป็นที่ตั้งเป็น พิพิธภัณฑ์ที่เห็น อยู่ในปัจจุบันนั่นเอง สิ่งที่นำมาจัดแสดงของที่นี่นั้น จะเป็นพวก งานศิลปะ

และสิ่งประดิษฐ์ทางด้าน โบราณคดีที่มีความใหญ่ที่สุด และยังดีที่สุดของ ประเทศญี่ปุ่นเลยนั่นเอง ซึ่งมีจำนวนของที่ใช้ จัดแสดงมากกว่า 110,000 รายการ

ซึ่งจำนวนเกือบร้อยรายการ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็น สมบัติสำคัญของชาติ และยังสามารถจัดแสดงในแต่ละครั้ง ซึ่งสามารถแสดงโชว์ได้ประมาณ 4,000 รายการในแต่ละครั้ง และยังสะดวกด้วย การมีข้อมูลภาษาอังกฤษ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจ

และยังมีระบบเสียงบรรยาย ในรูปแบบ Audio Guide เพื่อให้บริการ แก่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม ในพิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติโตเกียว ส่วนประกอบของที่นี่จะแบ่งเป็น อาคารทั้งหมดซึ่งจะมีจำนวนด้วยกัน 6 หลัง

แต่จะมีการแยกออกจากกัน จะเน้นไปจัดแสดงของ ทางผลงานศิลปะเช่น ฮงคัง , ฮโยเคคัง , โทโยคัง , เฮเซคัง , โฮริวจิ , โฮโมสึคัง ,อนุสรณ์สถานคุโรดะ นอกจากนั้น แล้วยังมีส่วนของ สวนสไตล์ของ ญี่ปุ่นดั้งเดิมและโรงน้ำชา

ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถ เข้าชมได้แต่จะเป็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วงและยังสามารถพบกับ ร้านกาแฟจำนวนหลายร้าน ที่คอยต้อนรับและให้บริการด้วยนั่นเอง

พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น

– พิพิธภัณฑ์เรือนจำอะบาชิริ

สำหรับเรือนจำแห่งนี้ ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มี ชื่อเสียงแห่งนึงเลย Abashiri Prison Museum ถูกสร้างขึ้น ครั้งแรกในตอนปี 1890 และได้คำยกย่องว่า เป็นเรือนจำ ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด แห่งแรกของญี่ปุ่น

และยังคงดำเนินไปจนถึงปี 1984 จนมีการพัฒนาเกิดขึ้นในการ สร้างเรือนจำแห่งใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น เข้ามาแทนที่เรือนจำเก่านั่นเอง และเมื่อหยุดการดำเนินการ ก็จึงได้มาดัดแปลงพิพิธภัณฑ์อะบาชิริ

ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่กลางแจ้ง และยังเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ในตอนปี พ.ศ.2452 ซึ่งได้รับความเสียหาย จำนวนมากเลย

จึงทำให้มีการสร้าง ขึ้นมาใหม่ในปี 1912 และยังถูกย้ายไปตำแหน่งปัจจุบัน แต่พอเมื่อมีการปรับปรุงเรือนจำให้ทันสมัยในปี 1984 – 1985 เรือนจำแห่งนี้ได้มีการ เที่ยวประวัติศาสตร์ ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์

และมีการเปิดอย่าง เป็นทางการต่อสาธารณะชน โดยแบ่งเป็นโครงสร้างทั้ง 22 แห่งที่ถ่ายทอดเรื่องราว ในการใช้ชีวิตของนักโทษในสมัยก่อน

และมีการปรับปรุงรอบใหม่อีกครั้งในปี 2010 ซึ่งก็เพื่อเพิ่มจำนวนของ พิพิธภัณฑ์เรือนจำ เกี่ยวกับการถ่ายทอด เรื่องราวของ ประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเรือนจำ

และจุดประสงค์หลัก ก็คือการเรียนรู้แบบเข้าใจง่าย และมีสื่อที่ช่วย ในการเล่าเรื่องด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นกันว่า เรือนจำต้องการให้นักโทษ ได้ทบทวน ความผิดของตน ที่ได้ทำมาว่าเหตุใด

จึงต้องได้รับโทษแบบนี้ ก็เพื่อให้เกิดการสำนึกขึ้น เพื่อเป็นการช่วยปรับปรุง ตัวให้นักโทษ และรวมไปถึงทางด้านสังคมทั่วไป แต่ไม่รู้ว่าการปรับปรุงเรือน จำรอบใหม่นั้น จะเป็นการเข้าข้างนักโทษมากกว่า เดิมหรือไม่

ซึ่งเคยมีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Abashiri Bangaichi 1965 ซึ่งก็ทำให้นักแสดงหนุ่ม ที่มีชื่อว่า ken takakura โด่งดังระดับพลุแตก จากหนังเรื่องนี้

เรื่องราวเกี่ยวกับด้านของ 2 อาชญากรที่มี ความสามารถในการ แหกคุกในหลาย ๆ ครั้งมาก ซึ่งได้รับฉายาว่า ผู้วิเศษแห่งการแหกคุก ในยุคเมจิ ได้รับการยกย่องซะแบบนั้นเลย

ก็แปลก ๆ ดีเหมือนกันแต่ก็เข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมพอปรับปรุงคุกแห่งใหม่ถึง ทำให้ดูเหมือนช่วยสนับสนุนนักโทษ มากกว่านี่เอง

แล้วสำหรับนักโทษทั้ง 2 คนน้้นมีหุ่นจำลอง จัดแสดงโชว์ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ให้ดูกันด้วย ก็เป็นสถานที่ ๆ น่าสนใจในการศึกษา ชีวิตของนักโทษชาวญี่ปุ่นอย่างดีเลย

– พิพิธภัณฑ์ Shikoku Mura

ที่นี่ถูกตั้งไว้กลางแจ้ง บนเนินเขา ซึ่งอยู่ในบริเวณที่ฐาน ของยาชิมะ เปิดครั้งแรกตั้งแต่ในปี 1976

ซึ่งมีการเก็บรักษาบ้านรูปแบบเดิม พร้อมกับยังมีการจัดเก็บของหอศิลป์ และอาคารที่สำคัญทางวัฒนธรรมอื่น ๆ อีกด้วย Samurai Museum 

ซึ่งสามารถมาเรียนรู้ เรื่องราวของ วัฒนธรรมบนเกาะซิโกกุ จึงได้บรรยากาศที่สงบ และมีการรักษา ความเป็นรูปแบบเดิมของ วัฒนธรรมได้เป็นอย่างดีเลย @UFA-X10 

เรียบเรียงโดย อลิส